Hotel Labaris
อาณาจักรลาบาริส ดินแดนแห่งเขาวงกต
แล้วยิ่งล่าสุดที่เราได้มาพบกับ Destination แห่งใหม่ของเขาใหญ่ ที่ที่ทำให้การมาเยือนเขาใหญ่ของเราเปลี่ยนไป ยิ่งทำให้ความฝันของเราใกล้ความจริงขึ้นมาทุกที
Hotel Labaris Khao Yai
จุดหมายที่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น..
“อาณาจักรลาบาริส” คือจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ ที่ทำให้เราอยากกลับมาเยือนที่นี่ ในฐานะ “นักเดินทาง” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะไม่ว่าใครที่ก้าวเท้าเข้ามาในดินแดน(เขาวงกต)แห่งนี้ เชื่อว่าต้องหลง..เสน่ห์ กับโลกเทพนิยายที่ซ่อนอยู่ จนไม่อยากกลับออกไปแน่ๆ
“โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่” (Hotel Labaris Khao Yai) คืออาณาจักรที่เรากำลังพูดถึง เพราะไม่ว่าใครที่ผ่านเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ จะต้องรู้สึกราวกับหลุดเข้ามาอยู่โลกอีกใบ บนพื้นที่กว้างขวางไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มองเห็นแต่ปราสาทรูปทรงแปลกตาตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนนั้น ทำเอาเก็บความตื่นเต้นไว้แทบไม่ไหว
เราจะพาทุกคนไปดูพร้อมๆ กันว่า ที่นี่จะสร้างเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ น่าประทับใจหรือน่าค้นหาขนาดไหน จนทำให้เราอยากจะหยุดเวลาราวกับความฝันในดินแดนลี้ลับแห่งนี้ไว้ตลอดกาล และนี่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของนิทานเรื่องนี้..
“ดินแดนเขาวงกต”
อาณาจักรในปกครองของ “คิงส์ มิโนทอร์”
ก่อนเข้าไปดูข้างใน เพื่อความอินขั้นสุด เราจำเป็นต้องรู้เรื่องราวธีมโฮเทล หรือนิทานที่โรงแรมแต่งขึ้น เพื่อร้อยเรื่องราวองค์ประกอบต่างๆ จนกลายเป็นโรงแรมในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน นั่นคือ ดินแดนเทพนิยายแห่งนี้
แต่ก่อนจะแปลงกายเป็นเจ้าหญิงนักเดินทาง แขกคนสำคัญที่ได้รับเชิญเข้าสู่ อาณาจักรของ “คิงส์ มิโนทอร์” บนพื้นที่กว่า 15 ไร่นี้ เราจะขอเล่าไปตามบทตอนที่กษัตริย์มิโนทอร์ ผู้ปกครองอาณาจักร ได้แบ่งเรื่องราวผจญภัยไว้ให้คุณออกตามหา โดยแบ่งออกเป็น 5 Chapter ให้เหมือนกับคุณกำลังเปิดอ่านหนังสือเทพนิยายเลยล่ะ
CHAPTER 1
Welcome Zone
ทางเข้าสู่เขาวงกต..
มองจากภายนอก คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า มีอะไรที่ซ่อนอยู่ภายใน นอกจากพื้นที่สีเขียวที่ยาวไปสุดตา จนกว่าจะได้ก้าวเข้าไปข้างใน เพื่อไปพบกับการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น (รู้สึกแบบนั้นจริงๆ)
ภาพแรกที่เราเห็นคือสวนขนาดใหญ่ ที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา แถมบรรยากาศดีมาก รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สบายใจอย่างบอกไม่ถูก สวนที่ชื่อว่า Lapin Hill และ Whispering Meadows แห่งนี้ จึงถูกเรียกให้เป็น Welcome Zone ต้อนรับนักเดินทางที่แวะแวียนมาไม่ขาดสาย ในระหว่างที่เรามองหามุมถ่ายรูป (ซึ่งมีอยู่ทุกที่) ท่ามกลางต้นไม้ ดอกไม้น้อยใหญ่ เราก็ได้พบกับ “สัตว์วิเศษ” บริวารของคิงส์ มิโนทอร์ ที่ซ่อนตัวคอยต้อนรับ และคุ้มครองพวกเราเหล่านักเดินทางด้วย
“มองเราในพุ่มไม้ และเขาวงกตดอกไม้สิ เพื่อนของเราคอยต้อนรับทุกคนอยู่นะ”
เสียงเอ่ยเชิญชวนจาก Lapin Horn กระต่ายน้อยน่ารักหูยาวแต่มีเขาเหมือนยูนิคอร์น
ก่อนที่เราจะได้เจอกับโพรงกระต่ายขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เนินเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไป นั่นก็คือบ้านหลังน้อยของเหล่าสัตว์วิเศษ เป็นคาเฟ่สุดน่ารักที่ชื่อว่า Rabbit Cafe ที่นี่บรรยากาศน่ารักอบอุ่นมาก มีโซนให้นั่งทั้ง Indoor และ outdoor พร้อมกับบริการขนมสดใหม่ และเครื่องดื่มหลากหลาย สาย Cafe Hopper นี่ห้ามพลาดเลย ถึงไม่ได้เข้าพักที่โรงแรม แต่ก็แวะมาคาเฟ่ได้นะ เพราะโซนนี้เค้าเปิดต้อนรับนักเดินทางทุกคนเลยยยย
CHAPTER 2
The Heart of Labyrinth
หลง..ไปในดินแดนมหัศจรรย์
เข้ามาในโซนนี้ จะเป็นส่วนของโรงแรม ที่มี “ผู้นำทาง” เหล่าผู้ดูแล ซึ่งคอยรับใช้คิงส์ มิโนทอร์ พาเราที่ถูกเรียกว่า “นักเดินทาง” เดินผ่านเส้นทางที่เหมือนกับเขาวงกต เพื่อเข้าสู่ปราสาท Starry Castle และ Midnight Castle ใจกลางของเขาวงกต ก่อนเข้าสู่ Labaris Greeting (Lobby) เพื่อเช็คอินรับกุญแจ และแผนที่เข้าสู่ภายในโรงแรม รวมถึงจดหมายต้อนรับจาก คิงส์ มิโนทอร์ ด้วย บอกเลยแค่เข้ามาถึงตรงนี้ นอกจากจะตะลึงกับความใหญ่โตของปราสาท ที่รูปทรงไม่เหมือนใครแล้ว การตกแต่งแค่ส่วนของ Lobby ยังหรูหราอลังการ แถมทุกส่วนยังคอนเนคกับธรรมชาติได้ดีมากๆ ด้วย
สำหรับใครที่พักห้อง Deluxe Room, Grand Deluxe และ Duplex ผู้นำทางจะพาไปยังสถานที่พำนัก ภายในปราสาท Starry Castle และ Midnight Castle ซึ่งเป็น 2 ปราสาทที่ตั้งอยู่ใจกลางเขาวงกตที่เห็นนี่แหละ โดยที่เราได้เก็บภาพของห้อง Duplex มาฝากกัน ห้องเพดานสูงโปร่งที่มีบันไดขึ้นชั้นลอย แยกพื้นที่ส่วนของห้องนอนขึ้นมาอยู่ชั้นบนได้เป็นส่วนตัว ได้บรรยากาศใหม่ๆ ทำให้ยังเหลือพื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำ ที่กว้างมากกกกก บนพื้นที่ห้อง 65 ตร.ม. แบบนี้จะได้ใช้ทุกเวลาให้คุ้มค่ากับทุกพื้นที่อย่างเต็มที่แบบสะดวกสบายสุดๆ ไปเลย
CHAPTER 3
Explore The Secret Room
ห้องที่ทำให้นอนหลับฝัน(ดี) จนไม่อยากตื่น
ส่วนห้องที่เหลือจะเป็นห้องแบบพูลวิลล่า ที่มีทั้ง 1 และ 2 ห้องนอน พร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว สำหรับคนที่รักการพักผ่อนแบบไพรเวท ในโซนนี้ ผู้นำทาง จะพาเดินทางแยกออกมาอีกโซน ซึ่งต้องเดินทางผ่านเข้าวงกต และมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านลึกลับ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังในผืนป่า The Infinite Forest แต่ก่อนจะผ่านเข้าไปสู่ที่พักห้องวิลล่า เชื่อว่าผืนป่าแห่งนี้ ต้องมีคนหลงติดอยู่นานแน่ๆ เพราะโรงแรมเค้าสร้างกำแพงเงาสะท้อนซ้อนอยู่หลังต้นไม้ ทำให้จุดนี้เป็นอีกมุมถ่ายรูป(มหาชน) ที่สวยมากๆ ทำเอาหลง..ถ่ายรูปอยู่นานเลย ฮ่าๆๆๆ
ในที่สุดก็เข้ามาถึง Infinite Villa (Pool Villas) โซนนี้ครบมากจริงๆ ในทุกฟังก์ชั่นของการพักผ่อนที่เหมือนกับโดนมนต์สะกด เพราะนอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และพื้นที่พักผ่อนที่แยกไว้อย่างดี เป็นส่วนตัวสุดๆ เริ่มจาก แบบอินฟินิตวิลล่า 1 ห้องนอน (พูลวิลล่า) กับพื้นที่มากถึง 130 ตร.ม. ในบรรยากาศและการตกแต่งที่อบอุ่น พร้อมกับห้องน้ำที่กว้างมากกกเหมือนเคย ทั้งยังแยกส่วนชัดเจนให้ใช้งานพร้อมกันได้ โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว เตียงนอนคิงส์ไซส์นอนหลับสบาย แบบที่ไม่ต้องออกไปไหน แถมยังสั่งอาหารมาทานที่ห้องได้ด้วย ก็จะได้ภาพถาดอาหารพร้อมเสิร์ฟแบบลอยน้ำสวยๆ แบบนี้เลยแหละ
ขณะที่แบบอินฟินิตวิลล่า 2 ห้องนอน (พูลวิลล่า) ก็มีฟังก์ชั่นคล้ายๆ กัน เหมาะมากกับการใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวอย่างเป็นส่วนตัว เพราะด้วยพื้นที่ 300 ตร.ม. มีทั้งห้องนั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร และสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ใหญ่ขึ้น ขนาด 30 ตร.ม. ท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมกับอากาศดีๆ ทำให้อยากยืดเวลาแห่งความสุขในดินแดน Labaris นี้ออกไปนานๆ จัง
ส่วนครอบครัวไหนที่มี “นักเดินทางตัวน้อย” มาด้วย ในโซนนี้ก่อนเข้าถึงห้องพักพูลวิลล่า จะมี Laughing Stone Magical Playground สนามเด็กเล่นที่มีบ้านไม้วิเศษ ก้อนศิรา และพื้นที่ให้เด็กๆ วิ่งเล่นด้วยนะ
 |
 |
 |
CHAPTER 4
Tracking the Beauty of Romance
พื้นที่เติมพลังแห่งความสุข
นอกจากปราสาททางด้านหน้าแล้ว โซนนี้เป็นอีกสถาปัตยกรรมที่สวยงามและน่าทึ่งมาก เป็นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือน ราวกับเป็นอาณาจักรในเทพนิยายจริงๆ และแน่นอนว่าทุกโซนทุกสิ่งของที่นี่ต้องมีเรื่องเล่า ซึ่งส่วนนี้ จะถูกเล่าเรื่องมาตั้งแต่ระหว่างทางเดิน ที่นำทางด้วยเส้นไหมสีแดง เพื่อไปพบกับทุ่งดอกกุหลาบ ที่นี่จะเป็นทางมา The Fable Feast (ห้องอาหารลาบาริส) ที่เสิร์ฟอาหารไทยรสกลมกล่อม อาหารตะวันตกและฟิวชั่น หรือที่เรียกว่า “Thai Cuisine and Grill Bar” เป็นรสชาติความแปลกใหม่ที่ผสมผสานความเป็นไทยในสไตล์ Labaris ได้อย่างลงตัว และข้างๆ กัน จะเป็น Labaris Town Hall (ห้องประชุม) ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ ที่จัดงานประชุมหรืองานอีเว้นต์ได้หลากหลายรูปแบบ รองรับได้หลายกิจกรรม ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศโรแมนติก และรองรับแขกได้ถึง 120 คน
CHAPTER 5
The Meander Wonderer
เชื่อมโยงธรรมชาติ เชื่อมต่อเรื่องราวในจินตนาการ รวมเป็นหนึ่งเดียว
โซนนี้จะพูดถึง สระว่ายน้ำ ของที่นี่ ซึ่งเป็นที่สุดของการออกแบบสระว่ายน้ำ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับสวนน้ำอะไรแบบนั้น Nomadic Creek คือชื่อของสระน้ำวน หรือสระผู้ใหญ่ที่ทำลักษณะคล้ายกับลำธารจากธรรมชาติ เป็นเส้นยาวคดเคี้ยวสไตล์ Loop Pool ราวกับแม่น้ำไม่มีที่สิ้นสุด เราสามารถเพลิดเพลินกับการลอยตัวไปกับน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ โดยที่สองฝั่งข้างสระเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสดชื่น เหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี Cub’s Creek สระสำหรับเด็ก ที่มีทั้งสไลด์เดอร์ น้ำพุ และเครื่องเล่นอีกมากมาย พร้อมกับ Endless River (ลำธารธรรมชาติ)
THE END
HOTEL LABARIS
ดินแดนของนักผจญภัย
สรุปเลยว่าดินแดนแห่งนี้ ต้องเป็นอีก 1 สถานที่ที่ “มาเขาใหญ่ต้องมาให้ถึง” หรือต่อให้มาแล้ว “ครั้งเดียวไม่เคยพอ” จริงๆ นับตั้งแต่เรื่องเล่า แม้จะเป็นเพียงนิทาน แต่ก็ทำให้ภาพของการมาพักที่นี่ชัดขึ้น อินขึ้น ทำให้เราอยากค้นหาคำตอบและเรื่องราวอยู่ไม่รู้จบ ไหนจะกิมมิคมากมายที่ซ่อนอยู่ สถาปัตยกรรม การออกแบบทั้งภายใน ภายนอก และการออกแบบสวน ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติของเขาใหญ่ ยังทำให้เราเชื่อได้จริงๆ ว่าเราหลุดเข้าไปอีกโลกที่เหนือธรรมชาติจริงๆ เชื่อเถอะว่ามันจะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่คุณยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะสาวๆ ที่ฝันอยากเป็น Alice in wonderland แค่เตรียม(หลาย)ชุดให้พร้อม พรอพจัดให้เต็ม เพราะคุณจะได้ภาพสวยๆ ในทุกย่างก้าวจากที่นี่ และมีความสุขให้เต็มที่บนบนโลกมหัศจรรย์นี้ได้เลย
ช่องทางการติดต่อโรงแรม โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่
Phone : 063 190 1900
Email : info@hotellabaris.com
