fbpx
Lebelair - Lebelair_reviewresort-22

LE BEL AIR RESORT

เลอ เบล แอร์ รีสอร์ท " หลวงพระบาง "

ชีวิตสโลว์ไลฟ์ สบายดี หลวงพระบาง ต้นไม้ แม่น้ำ ภูเขา ประเพณี สมกับที่เป็นเมืองพี่เมืองน้องกันจริง แถมยังเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เจอแต่รอยยิ้ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และเป็นมิตร

LE BEL AIR RESORT

เลอ เบล แอร์ รีสอร์ท

” หลวงพระบาง 

 แนะนำ

 ที่พักสุดหรู / วัด / ที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ /ประเพณีตักบาตรข้าวเหนียว และที่พลาดไม่ได้เลยคือ หมู่บ้านกลางหุบเขา “บ้านเชียงมวก” แหล่งปลูก “ผักน้ำ” ผักชื่อดังของเมืองหลวงพระบาง ที่น้อยคนนักจะเข้าถึง

เราพักกันที่ LE BEL AIR RESORT เป็นรีสอร์ตสไตล์โคโลเนียล สวยหรู แถมจุดเด่นอยู่ที่รีสอร์ตนี้อยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำคานแห่งแรกของหลวงพระบาง เรื่องบรรยากาศจึงไม่ต้องพูดถึงว่า “ ฟินเว่อออออร์ ”

รีสอร์ตอยู่ห่างจากสนามบินไม่มากค่ะ นั่งรถประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้ว และมีรถต้อนรับอย่างดีจากสนามบินมาถึงรีสอร์ตเลย

LE BEL AIR RESORT เป็นรีสอร์ตสไตล์โคโลเนียล สวยหรู

ที่รีสอร์ทมีจักรยานไว้คอยบริการลูกค้า ด้วย ไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบปั่นจักรยานเล่น

โดยเฉพราะรีสอร์ทนี้อยู่ใกล้สะพานเก่าแก่ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำคานแห่งแรกของหลวงพระบาง ที่อยู่ติดกับรีสอร์ทเลย

พาเข้าไปดูที่รีสอร์ทก่อน แค่ได้เห็น Lobby ก็รู้สึกได้ทันทีว่า คุ้มมาก กับการมาเที่ยวครั้งนี้

ตัวอาคารของรีสอร์ทสวยมาก ถ่ายรูปเล่นได้ทุกมุมเลยแหล

ห้องนอน สิ่งอำนวยความสะดวกครบ

ห้องน้ำสะอาดมาก รีสอร์ทเพิ่งเปิดยังใหม่อยู่เลย มาก่อน ไม่ผิดหวัง

บรรยากาศระเบียงห้อง นั่งชิวได้ทั้งวัน อากาศก็ดี

มุมนั่งเล่นที่ด้านนอกห้องชั้นล่าง ให้ความรู้สึกเหมือนนนั่งอยู่ในสวน มากกว่าระเบียงอีก

ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำด้วย กรี๊ดดด เสียใจที่ไม่ได้พกบิกินี่มา T^T

พนักงานเอาใจใส่ ดูแลดีมาก มาก ใครมาหลวงพระบาง แนะนำลองมาพักเลย

 

เช้าวันที่ 2
พลาดไม่ได้เลยคือ ประเพณีตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งพระและเณรจะเริ่มออกบิณฑบาตประมาณ 6 โมงเช้า

บริเวณวัดที่พระสงฆ์ จะออกมาเดินบิณฑบาต แชะภาพสักหน่อย สวยดี

 

ได้เห็นกับตาแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆ เป็นภาพที่สวยงามมาก ซึ่งเราสามารถออกมาหาซื้ออาหาร และข้าวใส่บาตรล่วงหน้าได้ที่ตลาดเช้า หรือ ให้ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ก็ได้

หลงรัก หลวงพระบางเลยแหละ วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน และวัฒนธรรมที่ดี

พระสงฆ์ออกมาเดินบิณฑบาต เป็นแถวที่ยาวมาก

สะพานไม้ไผ่เก่าแก่ อีกช่องทางสำหรับคนอยากเดินสามารถเดินมาจากรีสอร์ท ได้เลย

หลังจากตักบาตรข้าวเหนียว เห็นว่าอากาศกำลังดี เลยขอมานั่งสวย ๆ บนเรือชมวิวแม่น้ำคานหน่อยนะจ้ะ

ขอพักหายใจแรง ๆ สักประเดี๋ยว มันช่างเย็นสบายเหลือเกินเธอเอ้ยย

ระหว่างทางเดินไปน้ำตก ก็จะเจอศูนย์อนุรักษ์หมี โดยหมีเหล่านี้จะเป็นหมีที่ได้รับการช่วยเหลือจากการค้าสัตว์ป่าในลาว

และนี่คือ”ตาดกวางสี” หรือ “น้ำตกกวางสี” น้ำตกที่ต้องมา ไม่มาไม่ได้ เพราะว่าที่นี่มันพีคสุดในหลวงพระบางแล้วเธอเอ้ยย!!! ตาดกวางสีคือน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ เราว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองหลวงพระบางแล้ว มีทั้งหมด 4 ชั้น สวยทุกชั้น น้ำเป็นสีฟ้า แบบฟ๊า ฟ้าา สวยจนบรรยายไม่ถูก อยากรู้ต้องมา !!!

“ น้ำตกตาดกวางสี !! ” ใช้เวลานั่งรถออกมาจากหลวงพระบางประมาณ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ

น่าเล่นน้ำ มาก มาก

และนี่ ก็พลาดไมไ่ด้อีกเช่นกัน คือ หมู่บ้านกลางหุบเขา “บ้านเชียงมวก” แหล่งปลูก “ผักน้ำ” ผักชื่อดังของเมืองหลวงพระบาง ที่น้อยคนนักจะเข้าถึง

ที่นี่คือแหล่งปลูก “วอเตอร์เครส” (Watercress) หรือ “สลัดน้ำ” คนลาวจะเรียกผักชนิดนี้ว่า “ผักน้ำ”

เมนูที่เราเจอวอเตอร์เครส ในหลวงพระบางคือ สลัดหลวงพระบาง และเฝอหมูชามโตที่มีเจ้านี่เป็นผักแนม ชอบมาก อร่อยมาก อเมซิ่งมาก เพิ่งเคยทานครั้งแรกในชีวิต I love it.

พระราชวังหลวงพระบางนี้ ยังมีพระไตรปิฎกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยพระราชทานให้กษัตริย์ลาวอีกด้วยน่ะ

มาต่อกันที่ “พระราชวังหลวงพระบาง” เป็นอาคารแบบฝรั่งแต่หลังคาเป็นแบบทรงลาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง หันหน้าเข้าสู่พระธาตุพูสี ตัวพระราชวังเป็นหมู่อาคารทรงเตี้ย ๆ ชั้นเดียว ตั้งอยู่บนพื้นยกสูง มีความงดงามลงตัวของศิลปะยุคอาณานิคมผสมกับศิลปะแบบล้านช้าง

“วัดเชียงทอง” หรือ “วัดเซียงทอง” สำหรับวัดเชียงทองเราขอโหวตให้เป็นวัดที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง อีกทั้งยังถูกขึ้นชื่อว่าเป็นอัญมณีล้านช้างที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นวัดสำคัญวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 อีกด้วย
ค่าเข้าชมนั้นก็ราคาอยู่ที่ 20,000 กีบจ้ะ โดยเมื่อเราเดินเข้าไป วัดเชียงทองจะประกอบด้วยหลายส่วนอย่าง สิม หรือ พระอุโบสถ สีดำฉลุทองตั้งตระหง่านอยู่ ด้านในมีพระองค์หลวงเป็นพระประฐาน เมื่อเราเดินออกมาด้านหลังของสิม เราจะเจอหอพระอีกสองหลัง ชื่อ หอพระม่าน และ หอพระไสยาสน์ ซึ่งเราสะดุดตากับผนังสีชมพูมากกก ผนังที่เล่าเรื่องนิทานและวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง

จ๊ะเอ๋!! นี่ไงมุมยอดฮิต มุมที่เราโผล่หัวออกมาจากหน้าต่างหอพระสีชมพู น่าร๊ากกก ฉันชอบบ

ยังไม่จบกับการทัวร์วัดนะจ้ะ มาต่อกันที่ “วัดวิชุนราช”

วัดวิชุนราชมีเอกลักษณ์ที่ต่างจากวัดอื่น วัดนี้มีพระธาตุทรงกลมคว่ำซึ่งชาวหลวงพระบางเรียกว่าพระธาตุหมากโม หรือพระธาตุแตงโม ที่สร้างขึ้นโดยพระมเหสีของพระเจ้าวิชุนราช เปรียบได้กับพลังของสตรีชาวลาว ภายในวัดเราสามารถชมรูปปั้นโบราณและแผ่นศิลาจารึกได้มากมาย

นี่คืออีกหลังที่อยากให้ไปดูเลยคือโรงเมี้ยนโกศ ตรงทางเข้าที่มีงานแกะสลักไม้สักทองที่สวยงามมาก ๆ งานละเอียดละออ จนทำให้ยืนอึ้งอยู่พักนึงเลยทีเดียว ด้านในจะมีราชรถแกะสลักไม้สีทอง พร้อมมีเศียรของพญานาค 5 เศียรยื่นออกมา เดินชมความงามรอบ ๆ แล้วก็อย่าลืมเสี่ยงเซียมซีด้านในด้วยนะ เสี่ยงเสร็จหยิบกระดาษผลทายได้ตรงนั้นเลย ส่วนจะแปลออกไหม ก็ตัวใครตัวมันเด้ออ้ายยย

ขอบคุณสถานที่สุดหรู และวิวแม่น้ำหลักล้านของหลวงพระบางเมืองแห่งประวัติศาตร์ ผู้คนที่น่ารัก และบรรยากาศที่เป็นกันเอง

ขอบคุณรอยยิ้มหวาน ๆ ของพนักงานที่คอยต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดีค่ะ

บ๊าย บายจ้ะ หลวงพระบาง แล้วเจอกันใหม่

ขอบคุณที่พัก le bel air resort หลวงพระบาง สำหรับการพาเที่ยวทริปนี้ สัญญาว่ามีโอกาสจะไปอีก ยังเที่ยวไม่ทั่วเลย สำหรับใครอยากไป แนะนำ จองที่พักได้เลย
ทางไปจอง : http://bit.ly/2PmGxsL << Agoda
ทางไปจอง : http://bit.ly/2UxdT99 << Booking

ฝากกดติดตามเพจ facebook ไว้ด้วยจ้า https://www.facebook.com/reviewresort.net/